วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เพลงฝุ่น



เนื้อเพลง: ฝุ่น
อัลบั้ม: Love


คำว่ารักมันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว
อะไรที่หวัง ก็พังไปตั้งนานแล้ว
แต่ชีวิตไม่รู้ทำไม มันยังคงค้างคาใจ
ไม่มีวันใดที่ฉันไม่จดจำ

ก็คำว่ารักยังจำได้อยู่เสมอ
หลับตาทุกครั้งยังเจอเธออยู่ตรงนี้
ความเข้มแข็งที่ฉันเข้าใจ อ่อนแอลงทุกนาที
อยู่ดีๆ ใจก็ร้องไห้อีกครั้ง

ยังคิดถึงเธอเหลือเกิน ได้ยินมั้ย
เธอยังอยู่ในหัวใจ ของฉัน
ข่มตานอนทุกคืน ยังฝันยังเห็นว่าเรารักกัน
เธออยู่ที่ไหน คิดถึงเธอ
ชาตินี้ไม่มีสิทธิ์เจอ จบแล้วก็เข้าใจ
แต่จะให้ทำยังไง เมื่อในหัวใจยังจดจำ

คำว่ารักยังพอให้ต่อชีวิต
ยังทำให้คิดถึงวันเก่าๆ เหล่านั้น
ได้แต่หวังลึกๆ ในใจ จะมีบ้างไหมสักวัน
สิ่งที่ดีๆ เหล่านั้นจะกลับมา

ยังคิดถึงเธอเหลือเกิน ได้ยินมั้ย
เธอยังอยู่ในหัวใจ ของฉัน
ข่มตานอนทุกคืน ยังฝันยังเห็นว่าเรารักกัน
เธออยู่ที่ไหน คิดถึงเธอ
ชาตินี้ไม่มีสิทธิ์เจอ จบแล้ว ก็เข้าใจ
แต่จะให้ทำยังไง เมื่อในหัวใจมีแต่เธอ

ทีมา ; http://www.siamzone.com/music/thailyric/index.php?mode=view&artist=!!bad4eaa1e1cdca&song=!!bdd8e8b9

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เพลง โอ๊บ โอ๊ย



เนื้อเพลง โอ้ย โอ้ย – เพลงประกอบละคร แจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา เบน ชลาทิศ

ตั้งแต่วันที่ฉันได้คุยเพียงครู่สองคนกับเธอครั้งก่อน กลับมานอนครวญครางละเมอคอยพร่ำหาเธอเหมือนจะอ้อนวอน เกิดอะไรขึ้นมาล่ะเออมันอยากรู้นัก เปลี่ยนฉันไปจากเดิม โอ๊ย..
จะเป็นเพียงแววตาของเธอทั้งคู่ฉายมาสะกดหรือเปล่า อาจเป็นดาวดวงใดใช้เธอมาหลอกเล่นกล เป็นไปไม่ได้ ออกจะงงคงเป็นเพราะเธอทำสับสน โอ๊ยเดี๋ยวอยากรัก เดี๋ยวอยากลืม โอ๊ย..โอ๊ย ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเพราะเธอ
เธอทำให้ฉันรักเธอก่อนไม่อาจถอน หัวใจมันคอยแอบๆ มองแบบซึ้งๆ เธอทำให้ฉันหลงใจอ่อน นอนกอดหมอนทุกคืน จะทนได้นานสักเท่าไรหากคิดถึง โอ๊ย..โอ๊ย
อยากจะกินกลืนเธอทั้งตัว ไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น อยากได้ยินเพียงเสียงของเธอ เพรียกบอกรักเพ้อถึงฉันผู้เดียว กดอารมณ์ทนไปไม่ไหวใจมันหวิววาบ ไม่เจอคงขาดใจ โอ๊ย..โอ๊ย โอ่ย โอ๊ย..คิดถึงจังเธอ
จะทนได้นานสักเท่าไรหากคิดถึง โอ๊ย..โอ๊ย
อยากจะกินกลืนเธอทั้งตัว ไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น อยากได้ยินเพียงเสียงของเธอ เพรียกบอกรักเพ้อถึงฉันผู้เดียว กดอารมณ์ทนไปไม่ไหวใจมันหวิววาบ ไม่เจอคงขาดใจ โอ๊ย..โอ๊ย โอ่ย โอ๊ย..คิดถึงจังเธอ

โอ้ย โอ้ย – เพลงประกอบละคร แจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา เบน ชลาทิศ

ที่มา ; http://www.google.co.th/search?hl=th&q=%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%8A%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%8A%E0%B8%A2&meta=

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง



อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
พิษณุโลก มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อ.วังทอง อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก และอ.หล่มสัก อ.เมือง อ.ชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ มีพื้นที่ 789,000 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ 2518 ที่ทำการอุทยานฯ อยู่บริเวณกม.ที่ 80 บนถนนทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เป็นต้น น้ำลำธารหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่

น้ำตกแก่งโสภา
อยู่บริเวณกม.ที่ 71-72 ถนน สายพิษณุโลก-หล่มสัก มีทางลาดยางแยกเข้าไป 2 กม. เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สภาพโดยรอบร่มรื่น บริเวณน้ำตกมีลานจอดรถ ห้องสุขา และร้านขายอาหาร

ทุ่งแสลงหลวง
สภาพพื้นที่เป็นทุ่งหญ้าโล่งใหญ่ (แบบสวันนา) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 60 กม. มีเนื้อที่ประมาณ 10 ตรกม. มีทางลูกรังสายที่ทำการอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง ตามเส้นทางจะผ่านป่าตอนกลางอุทยานฯ ทำให้ได้เที่ยวชมสภาพธรรม ชาติป่าเขาลำเนาไพรอีกด้วย

ทุ่งพญา
เป็นทุ่งหญ้าแบบสวันนาเช่นเดียวกัน มีเนื้อที่ประมาณ 5 ตรกม. เป็นป่าสนที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งในช่วงปลายฤดูฝนต่อถึงฤดูหนาว ทุ่งหญ้าแห่งนี้จะมีความสวยงามเหมาะแก่การนั่งรถชมวิว และตั้งค่ายพักแรม การเดินทาง จากทุ่งแสลงหลวง ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ อีกประมาณ 12 กม.

ทุ่งโนนสน
เป็นทุ่งหญ้าแบบสวันนา มีเนื้อที่ 10 กว่าตรกม. เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่ง ค้นพบใหม่ มีธรรมชาติสวยงาม เหมาะแก่การเดินป่าและตั้งค่ายพักแรม การเดินทาง จากที่ทำการอุทยานฯ ไปทางใต้ ตามทางลูกรังสายที่ทำการฯ-ทุ่งแสลงหลวง ประมาณ 25 กม. ถึงทางแยกขวามือ เป็นทางเดินเท้าประมาณ 15 กม.

ถ้ำเขาบ้านมุง
อยู่ในเขตอ.เนินมะปราง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 81 กม. ไปตามถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก ประมาณ 17 กม. แล้วแยกไปตามถนนสายวังทอง-เขาทราย ถึงสากเหล็กประมาณ 38 กม. แล้วแยกซ้ายอีกประมาณ 26 กม. จะถึงหมู่บ้านและทางเข้าวัดบ้านมุง ไกลออกไปอีก 2 กม. มีภูเขาสูงชันหลายลูก ประกอบด้วยภูเขาผาแดงสะดุดตา มีถ้ำประกอบด้วยหินงอก หินย้อย เป็นหลืบ ลึกลับซับซ้อน เรียกถ้ำนี้ว่า "ถ้ำดาว ถ้ำเดือน" นอกจากนี้ในเขตอุทยานฯ ยังมีถ้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งคือ "ถ้ำพระบ้านวังแดง" อยู่ที่ต.ชมพู ห่างจากอ.เนินมะปราง 22 กม. การเดินทาง จากสากเหล็ก เลี้ยวขวาไปเขาทรายประมาณ 10 กม. จะมีทางแยก ร.พ.ช. ไปถึง หมู่บ้านชมพู 31 กม.จากนั้นเดินเท้าอีกประมาณ 2 กม. เส้นทางยังไม่สะดวกนัก

สถานที่พัก อุทยานฯ ได้จัดที่พักไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ติดต่อจองที่พักได้ที่ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 579-0529, 5794842

ที่มา ; http://www.thai-tour.com/thai-tour/north/Pitsanulok/data/place/npk_salaengluang.htm

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน



อุทยานแห่งชาติขุนสถาน มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ในท้องที่ อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าไม้ชนิดต่างๆ คือ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าสนเขา ป่าดงดิบ ป่าดิบแล้ง สัตว์ที่พบเห็นได้แก่สัตว์จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำ นก ปลา แมลงชนิดต่างๆ ความเป็นมา : ด้วยศูนย์อุทยานแห่งชาติ จังหวัดน่าน ได้มีหนังสือที่ กษ 0712.ศอช.จ.น่าน/1 ลงวันที่ 7 เมษายน 2541 แจ้งว่า ศูนย์อุทยานแห่งชาติ จังหวัดน่าน ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติ 6 แห่ง ได้มีความเห็นและสอดคล้องต้องกันว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยแม่ขะนิง ป่าน้ำสาและป่าสาครฝั่งซ้าย และป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ในท้องที่อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรสัตว์ป่ามีลักษณะโดดเด่นอัศจรรย์ และมีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและนันทนาการสำหรับประชาชน มีพื้นที่ประมาณ 300,000-400,000 ไร่เศษ เหมาะสมและสมควรจัดตั้งเป็น ดังนั้นจึงเห็นสมควรขอให้ส่วนอุทยานแห่งชาติเสนอให้กรมป่าไม้ พิจารณาจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกมาสำรวจ ประกาศจัดตั้ง และควบคุมพื้นที่ดังกล่าว เพื่อประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติต่อไป กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งที่ 1041/2541 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 ให้นายวิโรจน์ โรจนจินดา เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 อุทยานแห่งชาติแม่ยม ปฏิบัติงานประจำอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท จังหวัดลำปาง ไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ดังกล่าว และกรมป่าไม้ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่ทำการสำรวจว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยแม่ขะนิงได้ถูกบุกรุกแผ้วถางและยึดถือครอบครองเป็นส่วนมาก สมควรประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเฉพาะในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำสาฝั่งขวาตอนขุน ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำสาและป่าสาครฝั่งซ้าย ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สาครฝั่งขวา ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ในท้องที่อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน เนื้อที่ประมาณ 535,625 ไร่ หรือ 857 ตารางกิโลเมตร ต่อมากรมป่าไม้ได้มีคำสั่งให้ไปสำรวจรายละเอียดเพิ่มเติม จากการสำรวจพบว่าพื้นท่มีความเหมาะสมอย่ในพื้นท่ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาแม่นำน่านตอนใต้ ในท้องท่อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน เนื้อที่ประมาณ 262,000 ไร่ หรือ 419.2 ตารางกิโลเมตรลักษณะภูมิประเทศ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีความสูงชัน ทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ มีแนวสันเขาของดอยแปรเมืองเป็นแนวแบ่งเขตระหว่างจังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน มีลำธารและลำห้วยไหลลงสู่แม่น้ำหลายสาย เช่น น้ำสา น้ำถา น้ำแหง น้ำแม่สาคร เป็นต้น ดอยที่สำคัญ เช่น ดอยกู่สถาน มีความสูง 1,630 เมตร ดอยแปรเมือง มีความสูง 1,395 เมตร ดอยขุนห้วยฮึก มีความสูง 1,233 เมตร ดอยแม่จอก มีความสูง 1,424 เมตร และดอยที่สูงที่สุดคือ ดอยภูคา สูง 1,728 เมตรจากระดับน้ำทะเลลักษณะภูมิอากาศ แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ จากข้อมูลภูมิอากาศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 - 2540 ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปี วัดได้ 1,194 มิลลิเมตรต่อปี อุณหภูมิสูงสุดเดือนพฤษภาคม 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเดือนมกราคม 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยรายปี 27 องศาเซลเซียสพืชพรรณและสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติขุนสถานสามารถจำแนกสังคมพืชออกได้เป็น ป่าดิบเขา ขึ้นอยู่ตามสันเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป เช่น บริเวณดอยขุนห้วยย่าทาย ดอยขุนห้วยหก ดอยขุนสถาน มีพันธุ์ไม้และพืชพื้นล่าง ได้แก่ ก่อ สารภีดอย พะวา จำปีป่า เหมือด กำยาน เฟิน และปรงป่า และทีเฟริ์น ป่าสนเขา ขึ้นกระจายตามยอดเขาที่ความสูงประมาณ 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล เช่น บนดอยจวงปราสาท ดอยแปรเมือง มีอาณาบริเวณไม่กว้างนัก พันธุ์ไม้ที่พบได้แก สนสองใบ สนสมใบ เหียง และพะยอม ป่าดิบแล้ง พบกระจายอยู่ทั่วไป สภาพป่ามีความชื้นสูง สภาพป่ารกทึบ มีพันธุ์ไม้และพืชพื้นล่างได้แก่ ยางปาย ยมหิน ม่วงก้อม ชมพูป่า เขืองแข้งม้า และหนามเล็บเหยี่ยว ป่าเบญจพรรณ พบกระจายอยู่ทั่วไปในพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 250-1,00 เมตร ชนิดไม้และพืชพื้นล่างที่พบได้แก่ ประดู่ ชิงชัน เก็ดแดง เก็ดดำ รกฟ้า มะเฟืองช้าง ตะแบกเลือด ปู่เจ้า มะกอกเกลื้อน ไผ่ไร่ ไผ่บง ไผ่ซาง เห็ดจั่น เห็ดมัน เห็ดซาง และเห็ดขอน และ ป่าเต็งรัง พบตามสันเขาที่มีความสูงระหว่าง 700-1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้และพืชพื้นล่างที่พบ ได้แก่ เต็ง รัง เหียง พะยอม มะม่วงหัวแมงวัน กระโดน ติ้ว กระท่อมหมู ปรง เห็ดไข่ห่านเหลือง และเห็ดขมิ้นใหญ่ เป็นต้น ป่าดิบชื้น ขึ้นอยู่ตามริมห้วย พบกระจายอยู่ทั่วไป แต่เป็นบริเวณไม่กว้างนัก พันธุ์ไม้และพืชพื้นล่าง ได้แก่ ตะเคียนทอง ยมหอม เชียด เลือดม้า กระทุ่มบก ลำพูป่า เฟิน ผักกูด กีบแรด บอน เห็ดแดง และเห็ดขมิ้นน้อย และยังพบกล้วยไม้นานาชนิด เช่น สิงโตสยามฯ สัตว์ป่าที่พบในอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ได้แก่ เสือโคร่ง หมีควาย กวางป่า เลียงผา หมูป่า ลิง อีเห็น หมูหริ่ง หมาหริ่ง กระต่ายป่า ตุ่น อ้น กระรอก นกขุนทอง นกแก้ว นกขมิ้น นกหัวขวาน นกแซงแซวหางบ่วง นกตะขาบทุ่ง แย้ ตะกวด กิ้งก่า ตุ๊กแกป่า กบ เขียด อึ่งอ่าง คางคก ฯลฯ สำหรับในบริเวณแหล่งน้ำเหนืออ่างเก็บน้ำสิริกิตติ์ มีปลาอาศัยอยู่หลายชนิด เช่น ปลานิล ปลาตะเพียนแดง ปลาแรด ปลาชะโด ปลาไน ปลาช่อน ปลาบู่ทอง ปลาสลาก ปลาตะโกก ปลาหมอ และปลาสร้อย เป็นต้นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจศาลเจ้าพ่อเขาครึ่ง เป็นเจ้าพ่อประตูเมืองของจังหวัดน่าน และเป็นที่เคารพสักการะของผู้เดินทางผ่านไปมา ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายร้องกวาง-อำเภอเวียงสา บริเวณหลักกิโลเมตร ที่ 30 (เขตแดนจังหวัดน่าน-แพร่)น้ำน่านตอนบนเขื่อนสิริกิตติ์ มีความสวยงามของธรรมชาติและทิวทัศน์สองฝั่งลำน้ำ ซึ่งล้อมรอบด้วยทิวเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาว สามารถล่องเรือหรือแพชมความสวยงามได้ และบางครั้งยังพบฝูงปลากระโดดเล่นน้ำและแหวกว่ายอยู่กลางน้ำที่ใสสะอาดอีกด้วยน้ำตกตาดหมอก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีจำนวน 3 ชั้น ความสูงรวมประมาณ 50 เมตร ตั้งอยู่บริเวณดอยแม่จอก ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตรน้ำตกผาแดง เป็นน้ำตกหลายชั้น โดยมีชั้นที่มีขนาดใหญ่จำนวน 4 ชั้น ชั้นที่สูงที่สุดประมาณ 15 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับถ้ำละโอ่ง ห่างจากบ้านเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย ประมาณ 5 กิโลเมตรดอยกู่สถาน เป็นดอยที่มีความสูงถึง 1,630 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศหนาวเย็นตลอดปีถ้ำละโอ่ง เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีลำธารไหลผ่าน และมีหินงอกหินย้อยที่มีความสวยงามดอยแม่จอก เป็นยอดดอยที่มีความสูง 1,424 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นสถานที่ตากอากาศและจุดชมทิวทัศน์ มีวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน สามารถมองเห็นความงดงามของดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและทะเลหมอกที่เป็นผืนขนาดใหญ่กว้างไกลสุดสายตากาดวัว ในอดีตเคยเป็นที่ชุมนุมของวัวแดงและกระทิง ตั้งอยู่บนยอดดอยขุนห้วยย่าทาย ห่างจากหมู่บ้านนาก้า ประมาณ 5 กิโลเมตร ต้องเดินเท้าเข้าไป 6 ชั่วโมง จากจุดนี้สามารถมองเห็นทะเลหมอกในตอนเช้าช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวน้ำตกขุนลี เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 100 เมตร อยู่บริเวณดอยกู่สถาน การเดินทางไม่สะดวก ต้องเดินเท้าผ่าดงทาก ประมาณ 4 ชั่วโมง จึงจะถึงตัวน้ำตก สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติ ยังไม่ที่พัก-บริการไว้บริการนักท่องเที่ยว มีแต่สถานที่กางเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นอุทยานแห่งชาติจัดตั้งใหม่ หากสนใจที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวต้องจัดเตรียมเต็นท์และอาหารไปเอง การเดินทาง รถยนต์ ใช้เส้นทางจากตัวจังหวัดแพร่ได้ 2 เส้นทาง คือ 1. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (ถนนยนตรกิจโกศล) เป็นเส้นทางจากตัวจังหวัดแพร่ไปจังหวัดน่าน มาตามเส้นทางประมาณ 66 กิโลเมตรจะถึงหม่บ้านห้วยแก๊ต ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวง 1216 ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร 2. จากจังหวัดน่าน ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1026 สายอำเภอเวียงสา - อำเภอนาน้อย และจากอำเภอนาน้อยเลี้ยวขวา ไปถึงที่ทำการอุทยาน ระยะทางประมาณ 33 กิโลเมตร สำหรับการเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ลำนำน่านตอนบนเขื่อนสิริกิต์ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ไปถึงอำเภอเวียงสาเลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1026 จากอำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร และจากอำเภอนาน้อยไปตามถนนลาดยางไปอำเภอนาหมื่น ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร และจากอำเภอนาหมื่นแยกเลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยางไปบ้านปากนาย ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตรสถานที่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ตู้ ปณ.5 อ.นาน้อย จ.น่าน 55150 โทรศัพท์ 0 1472 6169

ที่มา ; http://www.oceansmile.com/N/Nan/NANm17.htm

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง



อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 81 ของประเทศไทย ซึ่งกรมป่าไม้ได้เลือกให้เป็นอุทยานแห่งชาติฉลอง 100ปี กรมป่าไม้และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสที่ทรงครองราชย์ปีที่ 50 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2539 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ได้เสด็จทรงประกอบพิธีเปิดป้ายอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังอย่างเป็นทางการ
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีจุดชมวิวที่มีความสวยงามทางธรรมชาติความงดงามของท้องทะเลหมอก สามารถที่จะมองเห็นเทือกเขาดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน

ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและภูเขาสูงที่สลับซับซ้อนทอดตัวยาวตามแนวเหนือ-ใต้และอยู่ในแนวเดียวกันกับเทือกเขาเชียงดาว ภูเขาต่าง ๆ ในพื้นที่ที่มีความสูงชันตั้งแต่ 500-1,962 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีภูเขาที่สูงที่สุดคือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ได้แก่ ห้วยแม่เย็น ห้วยแม่ฮี้ ห้วยแม่ปิง ห้วยแม่จอกหลวง ห้วยน้ำดัง เป็นต้น รวมกันไหลลงสู่แม่น้ำปาย แม่น้ำปิง แม่น้ำแตง

ลักษณะภูมิอากาศ
ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนตุลาคม
ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ จะมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 9°c
ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนเมษายน จะมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 34°c

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
สภาพทางธรรมชาติยังคงความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้เกิดสังคมพืชหลากหลายชนิด ประกอบด้วยป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ ป่าสนเขา มีพรรณไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ตะเคียน ยาง จำปีป่า ยมหอม มะม่วงป่า ยมป่า เสลา ดงดำ แดง ประดู่ ตะแบก ตีนนก งิ้วป่า สนสองใบ ไม้ก่อต่าง ๆ เต็ง รัง เป็นต้น

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่า จึงชุกชุมไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด ได้แก่ ช้างป่า กวาง หมี เก้ง เลียงผา หมูป่า เสือ ชะมด ลิง พังพอน เม่น ไก่ป่า ไก่ฟ้า และนกนานาชนิด ได้แก่ นกเปล้า นกแก้ว นกขุนทอง นกขมิ้น นกปรอท และ นกเหยี่ยว เป็นต้น

ที่มา ; http://www.thaiforestbooking.com/np_home.asp?npid=150&lg=1

อุทยานแห่งชาติเอราวัณ



ท่ามกลางผืนป่าตะวันตกของไทยที่กว้างใหญ่กว่า 11.7 ล้านไร่ ซึ่งมีป่ามรดกโลกห้วยขาแข้งและทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นแกนกลางนั้นโดยรอบยังมีผืนป่าอนุรักษ์อยู่อีกมากมายหลายแห่ง อุทยานแห่งชาติเอราวัณเป็นป่าอนุรักษ์ผืนหนึ่งในนั้น ซึ่งยังคงความอุดมสมบูรณ์ จนก่อให้เกิดน้ำตกน้อยใหญ่หลายแห่ง น้ำตกเอราวัณตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของผืนป่าตะวันตก สภาพโดยรอบมีแมกไม้น้อยใหญ่ร่มรื่น น้ำตกเอราวัณเดิมมีชื่อว่าน้ำตกสะด่องม่องลายตามชื่อลำห้วยม่องลายซึ่งเกิดจากยอดตาม่องลายในเทือกเขาสลอบ สายน้ำจะไหลตามชั้นหินปูนเป็นระยะทางไกลถึง 1,500 เมตร ลดหลั่นเป็นเชิงชั้นราวขั้นบันไดธรรมชาติ สลับกับแอ่งน้ำสีเขียวมรกตตามฉบับน้ำตกหินปูนทั่วไป น้ำตกเอราวัณแบ่งออกเป็นชั้นใหญ่ๆ ถึง 7 ชั้นด้วยกัน โดยชั้นที่ 2 ถือว่ามีสายน้ำทิ้งตัวลงจากลาดไหล่หินได้สวยงามที่สุด ส่วนชั้นที่ 5 มีลักษณะเป็นวังน้ำใหญ่ไหลเย็น และก้อนหินที่ถูกขัดเกลาผ่านกาลเวลามาอย่างเนินนาน ทว่าน้ำตกชั้นที่ 7 นั้นเอง ที่มีก้อนหินเหมือนตกลักษณะคลบ้างเศียรช้างเอราวัณ อันเป็นที่มาของชื่อน้ำตก ในฤดูฝน สายน้ำจะไหลแรงพุ่งตกลงมาจากเศียรช้าง และมีปริมาณน้ำมากจนมองเห็นได้จากระยะไกล ซึ่งในยามปกติจะสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมได้ครบทุกชั้น แต่ยามที่น้ำหลากอาจเที่ยวชมได้แค่ชั้นที่ 2 เท่านั้น นอกจากนี้ที่น้ำตกชั้นที่ 2 ได้มีการจัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1 กิโลเมตร พร้อมป้ายสื่อความหมายเป็นระยะด้วย

ที่มา ; http://www.dnp.go.th/parksample/park.asp?park=10

อุทยานแห่งชาติปางสีดา



อุทยานแห่งชาติปางสีดาเป็นป่าที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะการศึกษา
เรื่องสัตว์ป่า เพราะมีสัตว์ป่าสัตว์ป่าหายากและนกกว่า 300 ชนิด เช่น
นกเงือก นกยูง จุดหนึ่งที่พบสัตว์ป่ามากก็คือ บริเวณ ห้วยคลองพลู
ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับไร่ร้าง ปัจจุบันมีสภาพเป็นทุ่งหญ้าที่สัตว์ป่าหลายชนิด
มักจะมากินน้ำ สัตว์ที่พบในบริเวณนี้ คือช้างป่า กระทิง เก้ง กวาง หมูป่า
หรือแม้แต่เสือลายพาดกลอน นอกจากนี้ภายในอุทยาน ฯ ยังมีสถานที่
ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ได้แก่

น้ำตกปางสีดา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ ประมาณ 800 เมตร
เป็นน้ำตกที่ทิ้งตัวจากหน้าผาสูง 8 เมตร เบื้องล่างเป็นแอ่งน้ำกว้างใหญ่
บรรยากาศร่มรื่น และจะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน

น้ำตกผาตะเคียน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร
ห่างจากน้ำตกปางสีดา ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางขึ้นสู่น้ำตก
ร่มรื่นด้วยแมกไม้หนาทึบ เป็นน้ำตกชั้นสุดท้าย ที่อยู่ในสายเดียวกับน้ำตก
ปางสีดา มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร หน้าฝนน้ำตกจะไหล
ทิ้งตัวลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สวยงามมาก เหมาะสำหรับเดินศึกษาธรรมชาติ

กลุ่มน้ำตกแควมะค่า จากที่ทำการอุทยาน ฯ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 40
ให้เดินเท้าต่ออีกประมาณ 6 กิโลเมตร ตัวน้ำตกทิ้งตัวจากหน้าผาสูง
ประมาณ 70 เมตร เหมาะสำหรับเดินป่าและสามารถกางเต็นท์ได้ ใกล้ ๆ
กันยังมี น้ำตกรากไทรย้อย ห่างจากน้ำตกแควมะค่าประมาณ 500 เมตร

น้ำตกลานหินใหญ่ ห่างจากน้ำตกแควมะค่าประมาณ 1.5 กิโลเมตร
น้ำตกสวนมั่น สวนทอง ห่างจากน้ำตกแควมะค่าประมาณ 3 กิโลเมตร
และน้ำตกม่านธารา ห่างจากน้ำตกแควมะค่าประมาณ 4 กิโลเมตร
กลุ่มน้ำตกแห่งนี้ ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2-3 วัน
เนื่องจากเป็นกลุ่มน้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในผืนป่า

น้ำตกถ้ำค้างคาว จากที่ทำการอุทยาน ฯ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 22
ให้เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร บริเวณน้ำตกมีค้างคาว
อาศัยอยู่ในถ้ำมากมาย

จุดชมวิว เป็นหุบเขากว้าง อยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 25 และกิโลเมตรที่ 35
สามารถชมภูมิประเทศโดยรอบ และชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกได้

แหล่งจระเข้น้ำจืด ห่างจากที่ทำการอุทยาน ฯ ประมาณ 5 กิโลเมตร
เข้าไปทางหมู่บ้านคลองผักขม – ทุ่งโพธิ์อีกประมาณ 50 กิโลเมตร
เป็นแหล่งจระเข้น้ำจืด ซึ่งเหลือเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
อยู่ในบริเวณห้วยน้ำเย็นที่มีวังน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น
แหล่งอาศัยของจระเข้น้ำจืด แทบทั้งสิ้น

กิจกรรมดูผีเสื้อที่ปางสีดา

การเดินทางไปอุทยาน ฯ

โดยรถส่วนตัว จากตัวเมืองสระแก้วใช้ทางหลวงหมายเลข 3462
ขึ้นไปทางทิศเหนือ ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร

หรือใช้บริการรถสองแถว โดยสารสายสระแก้ว – บ้านคลองน้ำเขียว
เข้าไปประมาณ 27 กิโลเมตร จนถึงที่ทำการอุทยาน ฯ

หรือเดินทางโดยรถไฟสาย กรุงเทพ ฯ – อรัญประเทศ ลงที่สถานีรถไฟ
จังหวัดสระแก้ว จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางสายสระแก้ว –
บ้านคลองน้ำเขียว

อุทยานฯ ปางสีดา โทร . 0 3724 6100 , 08 1862 1511

อุทยานฯ ปางสีดา ถูกประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22
กุมภาพันธ์ พ.ศ.2525 มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเมือง ฯ อำเภอวัฒนานคร
อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 844 ตารางกิโลเมตร หรือ 527,500 ไร่

อาณาเขตทางด้านทิศเหนือทั้งหมดกับด้านทิศตะวันตกบางส่วน มีแนวป่า
ต่อเนื่องกับอุทยานแห่งชาติทับลาน สภาพป่าเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน
มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และป่าทุ่งหญ้า เป็นป่าแห่ง
ต้นกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสายเช่นเดียวกับเขาใหญ่ เช่น ห้วยโสมง
ห้วยเสียว ห้วยน้ำเย็น ห้วยพระปรง ห้วยพลับพลึง ห้วยยาง ห้วยเลิงไผ่
ห้วยมะพูด ลำห้วยต่าง ๆ หล่านี้ จะไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกงหรือแม่น้ำ
ปราจีนบุรี ซึ่งจัดว่าเป็นแม่น้ำสายสำคัญของภาคตะวันออก

ที่มา ; http://www.tat8.com/thai/sk/p_pangsida.html